ผู้ว่าฯเมืองคนดีเกี่ยวแขนประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดฯปลุกพลังภาครัฐภาคประชาชนปลูกผักสวนครัวสร้างความมั่นคงทางอาหาร

  

  ผู้ว่าฯเมืองคนดีเกี่ยวแขนประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดฯปลุกพลังภาครัฐภาคประชาชนปลูกผักสวนครัวสร้างความมั่นคงทางอาหารต่อเนื่อง พร้อมให้มีการจัดทำถังขยะเปียกลดโลกร้อนทุกครัวเรือน    

 10 พฤศจิกายน 2565 เวลา 14.00 น.

        นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยนางอุรสา จินโต ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสุราษฎร์ธานี จัดกิจกรรมปลุกพลังปลูกผักสวนครัวเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารและจัดทำถังขยะเปียกลดโลกร้อน   ณ จวนผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี  “ผู้นำทำก่อน และทำต่อเนื่อง”โดยมีหัวหน้าส่วนราชการเช่น  พัฒนาการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ท้องถิ่นจังหวัดสุราษฎร์ธานี เกษตรจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายอำเภอ พร้อมข้าราชการส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง  สมาชิกกลุ่มสตรีอาสาพัฒนา ผู้นำอาสาพัฒนาชุมชน เครือข่ายโคก หนอง นา โมเดล ร่วมกิจกรรมในครั้งนี้กว่า 50  คน 

       

 

บนพื้นที่แปลงพืชผักจวนผู้ว่าฯขนาดพื้นที่ประมาณ  0.5 ไร่นอกจากจะได้พืชผักปลอดภัยบริโภครายวันแล้ว ยังเป็นแหล่งเรียนรู้การปลูกพืชผักสวนครัวด้วยระบบอินทรีย์  ยึดหลักความปลอดภัย โดย มีการจัดการที่น่าสนใจเช่น การปลูกผักชนิดต่างๆมากกว่า 20 ชนิด มีการปลูกในกระบะ ล้อรถยนต์ เพื่อให้สามารถจัดการศัตรูพืชได้สะดวก มีการทำถังขยะเปียก ปุ๋ยหมัก น้ำหมักชีวภาพ เป็นครัวเรือนต้นแบบให้ประชาชนได้เรียนรู้และดำเนินวิถีชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง การน้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี  ปลูกผักสวนครัวเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร ให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง  ทั้งนี้จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีพื้นที่ 19 อำเภอ 142 ตำบล 1,269 หมู่บ้าน/ชุมชน มีครัวเรือนตามฐานข้อมูล จปฐ.ปี 2565 จำนวน 202,985 ครัวเรือน มีการปลูกผักสวนครัวมากกว่า 10 ชนิด ครบทุกครัวเรือนแล้ว

               ขณะนี้กระทรวงมหาดไทยได้กำหนดนโยบายการดำเนินการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศประเทศ ตามนโยบายรัฐบาลเพื่อบรรลุเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจก ลดโลกร้อน โดยขึ้นทะเบียนโครงการถังขยะเปียก ลดโลกร้อนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตามโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานประเทศไทย (T-VER)ของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น  ประกอบกับจังหวัดสุราษฎร์ธานีเห็นความสำคัญของขยะมูลฝอยที่เกิดขึ้นในหมู่บ้าน/ชุมชนต่างๆอันนำมาซึ่งภาระค่าใช้จ่ายในการจัดการขยะ สภาพแวดล้อมของชุมชนรวมถึงปัญหาด้านสุขภาพของประชาชน จึงได้กำหนดมาตรการจัดการขยะต้นทาง ทั้งภาคประชาชนและภาครัฐดำเนินการ โดยคัดแยกขยะมูลฝอยในหน่วยงาน โดยการส่งเสริมการคัดแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง ตามหลัก 3 Rs : Reduce Reuse และRecycle หรือ 3 ช.ใช้น้อย ใช้ซ้ำ และนำกลับมาใช้ใหม่ 

      นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีกล่าวว่า กิจกรรมในวันนี้เป็นการปลุกพลังปลุกพลังภาครัฐภาคประชาชนในการปลูกผักสวนครัวสร้างความมั่นคงทางอาหารให้เกิดความต่อเนื่องต่อเนื่อง  “ผู้นำทำก่อนและทำต่อเนื่อง” เพื่อเป็นแบบอย่าง  และกระตุ้นให้ทุกภาคส่วน ทุกครัวเรือนได้ตระหนัก ถึงการน้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี  ปลูกผักสวนครัวเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร และการจัดทำถังขยะเปียกลดโลกร้อน ซึ่งทั้งสองกิจกรรมเป็นการเกื้อกูลกันเป็นอย่างดี กล่าวคือ เมื่อครัวเรือนจัดทำถังขยะเปียกลดโลกร้อน และเวลาผ่านไปจะเกิดการย่อยสลายของขยะอินทรีย์ก็จะได้ปุ๋ยชั้นดีสำหรับใส่บำรุงพืชผักสวนครัวให้งามมีความปลอดภัย สามารถประหยัดค่าซื้อปุ๋ย ค่าซื้อผักรับประทานได้ประมาณครัวเรือนละ 50 บาทต่อวัน ซึ่งจังหวัดสุราษฎร์ธานีมีครัวเรือนตามฐานข้อมูล จปฐ.ปี 2565 จำนวนกว่าสองแสน ครัวเรือนเท่ากับว่ามีการประหยัดเงินได้ถึงสิบล้านบาท/วัน ซึ่งบางครัวเรือนมีพื้นที่ข้างบ้านเยอะสามารถปลูกผักได้จำนวนมาก มีเหลือบริโภคและแจกจ่ายแล้ว ยังสามารถรวบรวมจำหน่ายที่ตลาดนัดประชารัฐคนไทยยิ้มได้หน้าศาลากลางจังหวัดฯซึ่งได้จัดพื้นที่ให้จำหน่ายฟรี นอกจากนี้ยังเป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ได้ออกกำลังกายอันจะส่งผลให้สมาชิกในครัวเรือน และผู้บริโภคมีสุขภาพที่ดีแข็งแรง ลดภาระและงบประมาณของงานด้านสาธารณสุขลงได้

     นายวิชวุทย์ จินโต ยังได้กล่าวต่ออีกว่า “สำหรับการจัดทำถังขยะเปียก ลดโลกร้อน เป็นหนึ่งในกระบวนการบริหารจัดการขยะที่มีประสิทธิภาพ โดยเสริมสร้างให้เกิดวัฒนธรรม  3 Rs : Reduce Reuse และRecycle หรือ 3 ช.ใช้น้อย ใช้ซ้ำ และนำกลับมาใช้ใหม่ นำไปสู่การลดปริมาณขยะที่ต้องนำไปสู่การกำจัด ลดการผลิตก๊าซเรือนกระจกซึ่งเป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อน สิ่งสำคัญคือการย่อยของขยะอินทรีย์ในถังขยะเปียกจะกลายเป็นปุ๋ยสามารถนำไปใช้ประโยชน์ทางการเกษตรสามารถเปลี่ยนภาระให้เป็นมูลค่า ลดรายจ่าย ควบคู่ไปกับการเพิ่มรายได้ของครัวเรือน  จึงขอเชิญชวนทุกภาคส่วนร่วมกันดำเนินการ เพื่อลดขยะเปียก ลดโลกร้อน รักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อโลกของเรา”

ภาพ /ข่าว โดย พิชัย มณีลาภ ผู้อำนวยการกลุ่มงานส่งเสริมการพัฒนาชุมชน